ตะแกรงอาร์คคืออะไร? ใช้ทำอะไรได้บ้าง

เจาะลึกวัสดุเหล็กเชื่อมที่ใช้งานได้หลากหลาย ตั้งแต่รั้วบ้านจนถึงอุตสาหกรรม

บทนำ

ในโลกของวัสดุก่อสร้างและงานออกแบบ ตะแกรงอาร์ค (Arc Mesh) หรือที่รู้จักในอีกชื่อว่า "ตะแกรงอาร์คเหล็กเชื่อม" ได้กลายเป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของบ้านช่างรับเหมา หรือแม้แต่วิศวกรโครงสร้างต่างให้ความสนใจ ด้วยคุณสมบัติที่แข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้หลากหลาย และสามารถสั่งผลิตตามขนาดที่ต้องการได้ จึงไม่น่าแปลกใจที่ตะแกรงอาร์คจะกลายมาเป็นคำค้นยอดนิยมในหมู่คนที่กำลังมองหาวัสดุก่อสร้างหรือระบบรั้วที่มีประสิทธิภาพ

ตะแกรงอาร์คคืออะไร?

ตะแกรงอาร์ค (Arc Mesh) คือแผ่น ตะแกรงอาร์คผลิตราคาถูก จากการนำเส้น ตะแกรงอาร์คลวดเหล็ก มาตัดให้ตรง แล้วเชื่อมเข้าหากันแบบตัดกันเป็นตาราง โดยใช้วิธีการ ตะแกรงอาร์คเชื่อมด้วยไฟฟ้า (Electric Arc Welding) ในทุกจุดตัดของลวด ทำให้เกิดความแข็งแรงแน่นหนา ไม่หลุดหรือขยับง่าย ต่างจากตะแกรงถักหรือแบบสานที่ใช้วิธีไขว้กันโดยไม่เชื่อมถาวร

ตะแกรงอาร์คมีหลายขนาด โดยสามารถเลือกทั้งขนาดช่องตา (เช่น 1 นิ้ว, 2 นิ้ว, 4 นิ้ว) ขนาดความหนาของลวด (เช่น 4 มิล, 6 มิล, 9 มิล) และความกว้าง/ยาวของแผ่นตามพื้นที่ติดตั้ง เช่น 90x240 ซม. หรือ 120x300 ซม. นอกจากนี้ ยังสามารถเคลือบผิวด้วยสีดำอบ, ตะแกรงอาร์คลวดชุบกัลวาไนซ์ (ชุบซิงค์), หรือแม้แต่ ตะแกรงอาร์คเส้นลวดสแตนเลสได้อีกด้วย

วัสดุที่ใช้ผลิตตะแกรงอาร์ค

1. เหล็กกล้าคาร์บอนธรรมดา (Plain Steel Wire)
   – นิยมใช้มากที่สุด ราคาถูก เหมาะกับงานทั่วไป

2. เหล็กชุบสังกะสี (Galvanized Steel Wire)
   – ทนสนิมสูง เหมาะกับงานกลางแจ้งหรือพื้นที่ชื้น

3. สแตนเลส (Stainless Steel Wire)
   – แข็งแรง ทนเคมี ใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร เคมี หรือภายในอาคารหรู
   
   

   ข้อดีของตะแกรงอาร์ค

   จุดเด่น	รายละเอียด
   ✅ ความแข็งแรง	เชื่อมด้วยไฟฟ้าทุกจุดตัด ทนแรงดึง แรงกระแทกได้ดี
   ✅ อายุการใช้งานยาวนาน	โดยเฉพาะแบบชุบซิงค์หรือสแตนเลส
   ✅ ติดตั้งง่าย	เป็นแผ่นสำเร็จรูป ติดตั้งกับเสารั้วหรือโครงเหล็กได้เลย
   ✅ สั่งผลิตตามขนาดได้	ปรับความกว้าง/ยาว/ตา/เส้นลวดได้ตามงาน
   ✅ ใช้งานได้หลากหลาย	ใช้ได้ทั้งในบ้าน ฟาร์ม โรงงาน และงานตกแต่ง

   
   ตะแกรงอาร์คใช้ทำอะไรได้บ้าง?

   1. รั้วบ้าน รั้วโรงงาน รั้วสนามกีฬา

   การใช้ตะแกรงอาร์คเป็นแผ่นรั้วคือหนึ่งในการใช้งานยอดนิยม ด้วยความแข็งแรง น้ำหนักเบากว่ารั้วปูน ติดตั้งง่าย และยังดูสมัยใหม่กว่ารั้วแบบดั้งเดิม ทั้งยังสามารถมองทะลุได้ เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยแต่ยังคงความโปร่ง เช่น ตะแกรงอาร์คล้อมรั้วบ้าน, ตะแกรงอาร์คล้อมรั้วโรงเรียน, ตะแกรงอาร์คล้อมรั้วสนามกีฬา หรือ ตะแกรงอาร์คล้อมรั้ว โครงการอสังหาริมทรัพย์

   2. ล้อมกรงสัตว์เลี้ยง/ฟาร์มปศุสัตว์

   ใน ตะแกรงอาร์คล้อมฟาร์มไก่ เป็ด หมู หรือแม้แต่การ ตะแกรงอาร์คล้อมกรงสุนัข ตะแกรงล้อมกรงแมว หรือ ตะแกรงล้อมกรงนก  ตะแกรงอาร์คล้อมกรงนก ก็เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะสามารถกันสัตว์หลุดออกจากพื้นที่ หรือกันสัตว์ป่าหรือ ตะแกรงอาร์คล้อมกรงสัตว์ เลื้อยคลานเข้ามาได้ดี อีกทั้งทนต่ออากาศร้อนและฝน

   3. โครงสร้างเสริมแรงในงานก่อสร้าง

   ในงานเทพื้น เทคอนกรีต หรือสร้างถนน บางพื้นที่ใช้ตะแกรงอาร์คเป็นโครงเสริมแรงคล้าย ตะแกรงอาร์คลวดเหล็กไวร์เมช (Wire Mesh) โดยเฉพาะหากต้องการตารางตาที่ห่างหรือพิเศษกว่าปกติ เช่น 4"x4" หรือ 6"x6"

   4. งานตกแต่งภายในและภายนอก (Decorative Mesh)

   บางโครงการใช้ตะแกรงอาร์คในงานตกแต่ง เช่น ทำเป็นฉากหลังบ้าน ฉากกั้นห้อง ชั้นวางต้นไม้ หรือแผงโชว์สินค้าสไตล์ลอฟท์ในร้านอาหาร คาเฟ่ หรือโชว์รูม เพราะให้ความรู้สึกดิบ เท่ ทันสมัย

   5. งานโรงงานและโกดังสินค้า

   ตะแกรงอาร์คใช้เป็นรั้วภายในโรงงาน เช่น แบ่งพื้นที่จัดเก็บ แบ่งโซนการทำงาน หรือทำผนังความปลอดภัยรอบ ตะแกรงอาร์คล้อมเครื่องจักร โดยสามารถติดตั้งได้เร็ว และดูแลรักษาง่ายกว่าผนังก่ออิฐ

   
   เลือกตะแกรงอาร์คแบบไหนดีให้เหมาะกับงานคุณ?

   ลักษณะงาน	ขนาดช่องตา	ความหนาเส้นลวด	เคลือบผิวแนะนำ
   รั้วบ้านทั่วไป	2"x2" หรือ 4"x4"	5-6 มม.	ชุบซิงค์/สีดำอบ
   รั้วโรงงาน	2"x4" หรือ 3"x6"	5-6 มม.	ชุบซิงค์หนา
   กรงสัตว์เล็ก	1"x1" หรือ 1"x2"	4-5 มม.	กัลวาไนซ์หรือสแตนเลส
   งานตกแต่ง	2"x2" หรือ 3"x3"	4-5 มม.	สแตนเลส / สีอบ
   งานเทพื้น	6"x6"	5-6 มม.	ไม่เคลือบ/ชุบซิงค์

   
   สรุป: ทำไมตะแกรงอาร์คถึงได้รับความนิยม?

   เพราะตะแกรงอาร์คคือคำตอบของความ แข็งแรง ปลอดภัย ติดตั้งง่าย และใช้งานได้หลากหลาย ทั้งในบ้าน ตะแกรงอาร์คล้อมรั้วโรงงาน และงานออกแบบ ตอบโจทย์ทั้งความสวยงามและการใช้งานจริง และยังสามารถผลิตได้ตามความต้องการเฉพาะของลูกค้า ซึ่งยากที่วัสดุอื่นจะทำได้ในราคาที่ใกล้เคียง
   
   อัพเดท วันที่ 1-8-68 เวลา 15.40 น.